Ricoh เปิดตัวกล้องรุ่น GR DIGITAL IV
เพิ่มประสิทธิภาพให้ลงตัว ทั้งในด้านความเร็ว และคุณภาพ
พร้อมด้วยระบบ Hybrid AF และ ระบบประมวลผล GR ENGINE IV

15 กันยายน 2011 ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น , คุณชิโร่ คอนโดะ ประธานและประธารกรรมการบริหาร บริษัท Ricoh จำกัด ได้ประกาศเปิดตัวกล้องรุ่นใหม่ล่าสุดอย่างเป็นทางการ กล้อง GR DIGITAL IV ซึ่งเปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพที่มากขึ้นกว่าเดิม ทั้งในด้านคุณภาพ และความเร็ว
กล้อง GR DIGITAL IV นี้ได้รับการพัฒนาต่อเนื่องมาจากกล้อง GR DIGITAL III ซึ่งเปิดตัวและวางจำหน่ายไปตั้งแต่ ปี 2009 โดยยังคงเสน่ห์และเอกลักษณ์ตามแบบฉบับกล้องในตระกูล GR DIGITAL ที่พัฒนาอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2005 และได้มีการพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นเสมอมาบนพื้นฐานของข้อมูลที่ได้จากคำแนะนำของช่างภาพมืออาชีพ และช่างภาพสมัครเล่นทั้งหลาย จนกลายเป็นกล้อง GR DIGITAL IV รุ่นล่าสุดนี้

กล้อง GR DIGITAL IV นี้มาพร้อมกับระบบประมวลผลรุ่นใหม่ GR ENGINE IV และชิ้นเลนส์แก้วคุณภาพสูง ให้คุณภาพของภาพถ่ายในระดับมืออาชีพ ซึ่งเป็นแนวทางที่กล้องในตระกูล GR ให้ความสำคัญสูงสุดมาโดยตลอดตัวกล้องยังได้รับการพัฒนาด้านความเร็วในการถ่ายภาพ เพื่อให้สามารถตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว ทันทุกเหตุการณ์ที่ต้องการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งระบบ Hybrid AF และระบบป้องกันภาพสั่นไหว ที่เมื่อทำงานร่วมกัน นอกจากจะเสริมในเรื่องของความเร็วแล้ว ยังช่วยให้มั่นใจได้มากขึ้นว่าจะสามารถถ่ายภาพได้คมชัด จอภาพของกล้องได้รับการปรับปรุงให้ละเอียดขึ้น โดยใช้จอขนาด 3 นิ้ว ความละเอียด 1.23 ล้านพิกเซล และใช้งานกลางแจ้งได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังปรับปรุงระดับน้ำอิเลคทรอนิคส์ให้แสดงผลได้ละเอียดขึ้น โดยบอกการก้ม-เงยของตัวกล้องได้ เพิ่มความสามารถของระบบ Dynamic Range Compensation เพื่อการถ่ายภาพย้อนแสง หรือในสภาพแสงที่มีความเปรียบต่างมากๆ ได้ดียิ่งขึ้น และระบบ Interval Composite ทำให้การถ่ายภาพแบบเปิดรับแสงอย่างต่อเนื่องตามช่วงเวลา ซึ่งเป็นเทคนิคใหม่ที่ช่วยให้กล้องสามารถบันทึกภาพเส้นของแสงดาวได้ รวมถึงมีระบบ Multiple Exposure ที่สามารถถ่ายภาพซ้อนได้มากถึง 5 ภาพในเฟรมเดียวกัน และมีการจัดการเมนูเกี่ยวกับเรื่องสีใหม่ให้ใช้งานง่ายขึ้น และยังเพิ่มสีแบบ Bleach Bypass เข้ามาเหนือไปกว่านั้น Ricoh ยังคงศึกษา ค้นหาข้อมูล และพัฒนาเฟิร์มแวร์อย่างต่อเนื่อง เพื่อเสริมประสิทธิภาพของกล้องที่ยอดเยี่ยมอยู่แล้ว ให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นอีกเรื่องที่โดดเด่นและได้รับความชื่นชมมาโดยตลอด

คุณสมบัติหลักของกล้อง GR DIGITAL IV

1. เพิ่มความเร็วและความแม่นยำในการโฟกัส ด้วยระบบ Hybrid AF
o ด้วยเทคโนโลยีของระบบโฟกัสอันเป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของ Ricoh ผ่านการใช้งานร่วมกับระบบ Hybrid AF และระบบการหาโฟกัส CCD Contrast AF ทำให้กล้อง GR DIGITAL IV สามารถโฟกัสได้เร็วถึง 0.2 วินาที และแน่นอนว่าในการโฟกัสระยะใกล้แบบมาโคร กล้องก็สามารถหาโฟกัสได้เร็วขึ้นกว่ากล้องรุ่นก่อนหน้า
o ในการถ่ายภาพแบบ Snapshot กล้องสามารถตอบสนองได้เร็วขึ้น โฟกัสเข้าถึงจุดที่ต้องการได้เร็ว และแม่นยำ ด้วยการทำงานร่วมกับเซนเซอร์ AF ภายนอก (เซนเซอร์ของระบบ Hybrid AF) ซึ่งจะช่วยคำนวณระยะให้แบบอัตโนมัติ

2. ให้ภาพถ่ายคุณภาพสูงขึ้น
o ด้วยความประณีตในการออกแบบเลนส์ และ Optical filter ซึ่งทำงานร่วมกับระบบประมวลผลรุ่นใหม่ล่าสุด ทำให้ได้ผลของ SFR* ที่ดียิ่งขึ้น
o ระบบประมวลผลรุ่นใหม่ GR ENGINE IV ให้คุณภาพของภาพถ่ายสูงขึ้น สัญญาณรบกวนต่ำ และทำงานได้อย่างรวดเร็ว
o เลนส์ GR 28mm/F1.9 อันเป็นเอกลักษณ์ของ Ricoh ให้ภาพถ่ายที่มีความคมชัดสูง ให้ผลของความคลาดต่างๆ ต่ำ ทั้งในส่วนของ Chromatic aberration และ Distortion เซนเซอร์รับภาพแบบ CCD ขนาด 1/1.7 ความละเอียด 10 ล้านพิกเซล ที่ได้รับการปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น ท้งหมดนี้เพื่อทำให้กล้อง GR DIGITAL IV เป็นกล้องที่ดีและสมบูรณ์แบบที่สุดเท่าที่มีอยู่ในตระกูล GR DIGITAL

* Spatial Frequency Response (SFR) : คือมาตรฐานหนึ่งในการใช้เพื่อชี้วัดประสิทธิภาพความคมชัดของกล้อง รวมถึงเรื่องอื่นๆ อันเป็นผลที่เกิดจากเลนส์และแสดงผลบนภาพ

3. ครั้งแรกกับระบบป้องกันภาพสั่นไหวในกล้องตระกูล GR DIGITAL
o ระบบป้องกันภาพสั่นไหวในกล้อง GR DIGITAL IV สามารถป้องกันการสั่นไหวได้มากถึง 3.2 สตอป* เมื่อใช้งานร่วมกับเลนส์ที่มีความสว่างสูงถึง F1.9 จะยิ่งช่วยให้การใช้งานในสภาพแสงน้อยนั้น มีประสิทธิภาพมายิ่งขึ้น

* ภายใต้การทดสอบตามมาตรฐานของ RICOH

4. จอแสดงผลรุ่นใหม่ ความสว่างสูง พร้อมระบบปรับความสว่างอัตโนมัติ
o ด้วยจอแสดงผลรุ่นใหม่ ขนาด 3 นิ้ว ความละเอียดถึง 1.23 ล้านพิกเซล ของกล้อง GR DIGITAL IV มีความสว่างมากกว่าจอแสดงผลของกล้องรุ่นก่นหน้าถึง 1.7 เท่า ซึ่งช่วยให้การแสดงผลต่างๆ กลางแจ้งทำได้ดียิ่งขึ้น
o พร้อมด้วยระบบปรับความสว่างของจอแสดงผลอัตโนมัติ ที่จะปรับให้สัมพันธ์เหมาะสมกับความสว่างของวัตถุและสภาพแสงที่กำลังจะถ่ายภาพ

5. ระบบถ่ายภาพต่างๆ ออกแบบมาเพื่อช่างภาพมืออาชีพ พร้อมด้วยโหมดใหม่ๆ ที่น่าสนใจ
o ระบบ Dynamic range compensation ระบบที่จะขยายช่วงการรับแสง ให้สามารถเก็บรายละเอียดในส่วนที่สว่าง และมืดได้ดียิ่งขึ้น และเมื่อใช้ในสถานการณ์ที่มีความเปรียบต่างสูงจนระบบชดเชยแสงตามปกติก็อาจไม่เพียงพอ ระบบนี้ก็จะสามารถเลือกใช้เพื่อช่วยเสริมให้ภาพที่ได้มีช่วงการรับแสงที่เหมาะสมใกล้เคียงกับที่ตาเห็นมากที่สุด
o ระบบ Auto Bracket ที่สามารถถ่ายภาพคร่อมได้ทั้งค่าแสง และคร่อมค่าไวท์บาลานซ์ ยังได้เพิ่มความสามารถในการคร่อมค่าความเปรียบต่าง , คร่อมช่วงการรับแสง (Dynamic Range Compensation) และคร่อม Image settings ซึ่งสามารถเข้าไปเลือกรูปแบบของภาพที่ต้องการได้อีกด้วย
o ระบบ Interval Composite ที่จะทำการรวมภาพเฉพาะในส่วนที่เป็นจุดสว่างในภาพ ออกแบบมาเพื่อการถ่ายภาพกลางคืน โดยเฉพาะเส้นแสงของดวงดาวอันสวยงามที่เคลื่อนตัวพาดผ่านท้องฟ้า
o ในระบบ Image settings ได้เพิ่มโหมดสีแบบ Positive Film และ Bleach Bypass ที่มีความสวยงามและสไตล์เฉพาะตัว ด้วยการลดความสดใสของสีแต่งเพิ่มความเปรียบต่างให้มากยิ่งขึ้น และในครั้งนี้ได้มีการย้ายโหมดสีอย่าง High Contrast B&W และ Cross Process มาอยู่ในระบบ Image settings ด้วย เพื่อให้สามารถใช้งานได้ในโหมดถ่ายภาพ Auto / P / A / S และ M
o ระบบ Multiple exposure สามารถถ่ายภาพซ้อนได้มากถึง 5 ภาพ และตัวกล้องยังด้เพิ่มชัตเตอร์ B และ T เข้ามาด้วย

6. เพิ่มความสามารถในการตั้งค่าต่างๆ ให้สะดวกขึ้น
o ระดับน้ำอิเลคทรอนิคส์ที่ใช้มาตั้งแต่กล้อง GR DIGITAL II ได้รับการปรับปรุงให้สามารถแสดงผลในแนวก้ม-เงยของกล้องได้ด้วย
o เพิ่มความสามารถในการใช้งานปุ่ม Fn1 และ Fn2 ที่สามารถตั้งค่าเป็นคู่ และบันทึกเก็บเอาไว้ได้ เพื่อให้ดึงการตั้งค่าที่จับคู่อย่างลงตัวเอาไว้แล้วมาใช้ได้อย่างสะดวก และเหมาะสมกับแต่ละสถานการณ์
o ระบบ My Settings ได้เพิ่มช่องสำหรับการบันทึกสูงสุดถึง 12 รูปแบบ เพื่อให้สามารถตั้งค่าต่างๆ และบันทึกลงไปได้อย่างหลากหลายมากยิ่งขึ้น โดยค่าที่ตั้งเอาไว้สามารถบันทึกลงในการ์ด SD และช่างภาพสามารถนำการตั้งค่านั้นไปแบ่งปันกันได้อีกด้วย
o รองรับการใช้งานร่วมกับการ์ดแบบ Eye-Fi เพื่อใช้ในการโอนถ่ายไฟล์แบบไร้สายจากกล้องเข้าสู่คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์อื่นๆ หรือเพื่อการแบ่งปันในโลกอินเตอร์เน็ต เมื่อใช้งานการ์ดชนิดนี้ จะมีสัญลักษณ์เฉพาะของระบบแสดงบนหน้าจอของกล้อง

7. อุปกรณ์เสริมใหม่
o สายคล้องมือ (GS-2) เพื่อให้การใช้งานและพกพามีความสะดวกปลอดภัย ทั้งยังได้ความรู้สึกพิเศษจากหนังคุณภาพสูงที่ใช้ในการผลิต และฝาครอบเลนส์โลหะที่ให้ทั้งความสวยงามและประโยชน์ในการล็อคระบบของกล้อง รวมถึงป้องกันหน้าเลนส์จากการกระแทกที่อาจเกิดขึ้นได้

8. ขยายความสามารถ และปรับปรุงกล้องให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้นด้วยเฟิร์มแวร์
o Ricoh ได้รับการยอมรับและชื่นชมมาอย่างต่อเนื่อง เกี่ยวกับความเอาใจใส่ในการพัฒนาเฟิร์มแวร์สำหรับกล้อง เพื่อให้กล้องนั้นได้รับการปรับปรุงแก้ไข รวมไปถึงเพิ่มเติมความสามารถใหม่ให้กับกล้อง ซึ่งกล้อง GR DIGITAL IV นี้ก็จะได้รับการอัพเกรดในอนาคตเช่นกัน

< ส่วนบริการลูกค้า >
สำหรับท่าที่เป็นเจ้าของกล้อง GR Digital IV สามารถใช้บริการพิเศษได้ตามนี้
เปลี่ยนกริปของกล้อง
ท่านสามารถชำระเงินเพิ่ม เพื่อเปลี่ยนกริปของกล้องเป็น ลายไม้ , คาร์บอน และลายหนัง (ทั้งหมดผลิตจากวัสดุสังเคราะห์)
* บริการนี้มีเฉพาะในบางพื้นที่เท่านั้น โดยสามารถตรวจสอบได้จากเว็บไซต์ของ Ricoh

กล้อง GR DIGITAL IV เวอร์ชั่นพิเศษ White Edition
พร้อมๆ กับการเปิดตัวกล้อง GR DIGITAL IV ทาง Ricoh ก็ได้เปิดตัวเวอร์พิเศษ White Edition นี้ด้วย โดยมีรายละเอียดเพิ่มเติมดังนี้

ชื่อสินค้า กล้อง GR DIGITAL IV White Edition
จำนวนจำกัด 10,000 ชุด ทั่วโลก
* อุปกรณ์เสริมที่อยู่ในชุดจำหน่าย คือ แบตเตอรี่ 1 ก้อน , แท่นชาร์จแบตเตอรี่ , สาย USB , สายคล้องมือหนังแท้ และฝาครอบเลนส์โลหะ

สนใจข้อมูลเพื่มเติมได้ที่ บริษัท อิสท์ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด     ผู้แทนจำหน่ายในประเทศไทย แผนกลูกค้าสัมพันธ์ โทร. 02-392-3130 www.eep.co.th หรือ www.ricohthai.com